สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ อียิปต์ และซาอุดีอาระเบีย…
TMF Group เปิดเผยผลการศึกษาเรื่องความซับซ้อนทางธุรกิจทั่วโลกประจำปีครั้งที่ 12 โดยจัดอันดับประเทศต่าง ๆ ตามระดับความยุ่งยากของกฎระเบียบในการดำเนินธุรกิจ
ลอนดอน, May 28, 2025 (GLOBE NEWSWIRE) -- ดัชนี Global Business Complexity Index (GBCI) วิเคราะห์ตัวชี้วัดด้านความซับซ้อนมากกว่า 250 รายการใน 79 เขตอำนาจศาล ซึ่งครอบคลุมถึง 94% ของ GDP ทั่วโลก ความซับซ้อนที่รายงานฉบับนี้วัดผลคือภาระที่ถ่วงน้ำหนักต่อธุรกิจ ซึ่งขัดขวางนวัตกรรมในประเทศและลดแรงจูงใจของการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ โดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ที่ชัดเจนต่อสังคม รายงานระบุอย่างต่อเนื่องว่าประเทศในยุโรปตอนใต้และลาตินอเมริกาเป็นภูมิภาคที่ดำเนินธุรกิจได้ยากที่สุด และแนวโน้มนี้ยังคงเป็นจริงในปี 2025 ในทางกลับกัน พื้นที่ที่มีความซับซ้อนน้อยที่สุดในการดำเนินธุรกิจมักอยู่ในยุโรปตอนเหนือและศูนย์กลางการลงทุนนอกชายฝั่งหลาย ๆ แห่ง ประเทศเหล่านี้แข่งขันกันดึงดูดการลงทุนด้วยความง่ายในการดำเนินธุรกิจ โดยปรับใช้ข้อกำหนดที่ไม่ยุ่งยาก และมีระบบจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับภาคธุรกิจ
รายงานระบุว่า แม้ความซับซ้อนจะมีอยู่ แต่ก็สามารถจัดการได้ไม่ยากนัก โดยเฉพาะสำหรับบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการรับภาระต้นทุนจากการปฏิบัติตามกฎระเบียบท้องถิ่น สิ่งที่รับมือได้ยากกว่ามากคือความไม่แน่นอน มาตรการคว่ำบาตรที่นำโดยสหรัฐฯ การล็อกดาวน์ในจีน และเหตุการณ์ปิดกั้นคลองสุเอซ ได้เริ่มเปลี่ยนทิศทางของโลกาภิวัตน์ ไปสู่ห่วงโซ่อุปทานที่หลากหลายมากขึ้น โดยที่หลายบริษัทมุ่งลดการพึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงแห่งเดียวในการจัดหา ผลิต หรือจำหน่ายสินค้า หนึ่งในแนวทางแก้ไขที่รายงานปีที่แล้วชี้ให้เห็น คือการเติบโตของเศรษฐกิจตัวกลางอย่างเม็กซิโก ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งมีบทบาทเชื่อมโยงการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ภายใต้กลยุทธ์ที่เรียกว่า ‘China plus one’ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ดังกล่าวกลับต้องเผชิญกับอุปสรรคจากมาตรการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ปรับตามดุลการค้าสินค้าระหว่างประเทศนั้นกับสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ประเทศที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการค้าได้รับผลกระทบโดยตรง
แม้ว่าอัตราภาษีอาจลดลงในอนาคต แต่การประกาศใช้และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วสะท้อนถึงความเสี่ยงเชิงโครงสร้างสำหรับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจจากประเทศที่มีดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูง รายงานระบุถึงความเชื่อมั่นในเสถียรภาพที่ลดลง โดยเขตอำนาจศาลส่วนใหญ่ (55%) ให้ความสำคัญกับการกระจายเส้นทางการค้าเป็นลำดับต้น ๆ รายงานยังระบุถึงกลุ่มประเทศใหม่ที่มีศักยภาพจะก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการค้า โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย ได้แก่ ระดับความซับซ้อนในการดำเนินธุรกิจที่ต่ำซึ่งสะท้อนถึงกฎระเบียบที่เอื้อต่อธุรกิจ ดุลการค้ากับสหรัฐฯ ที่ไม่สูงนักซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากมาตรการตอบโต้ทางการค้า ขนาดและความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจในระดับที่สามารถรองรับกิจกรรมทางธุรกิจหลากหลายรูปแบบในวงกว้าง และจุดยืนเชิงพหุขั้วที่เปิดกว้างต่อการค้ากับหลายกลุ่มเศรษฐกิจทั่วโลก ประเทศที่มีแนวโน้มจะกลายเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการค้าใหม่ ได้แก่ สหราชอาณาจักรและเนเธอร์แลนด์ในยุโรป อียิปต์และซาอุดีอาระเบียในตะวันออกกลาง รวมถึงออสเตรเลียและฮ่องกงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ในช่วงเวลาที่การค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน รายงานสรุปว่า รัฐบาลควรมุ่งลดความซับซ้อนในการดำเนินธุรกิจภายในประเทศ พร้อมกับเร่งแสวงหาข้อตกลงทางการค้ากับกลุ่มเศรษฐกิจต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการลงทุนข้ามพรมแดน รายงานยังเน้นย้ำว่า ภาคธุรกิจจำเป็นต้องกระจายห่วงโซ่อุปทานให้หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้โครงสร้างภายในองค์กรซับซ้อนมากขึ้น และเพิ่มต้นทุนในการดำเนินงานตามมา ขณะเดียวกัน บริษัทต่าง ๆ สามารถลดความซับซ้อนของตนเองได้ด้วยการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากหลายองค์กรมีจำนวนโครงสร้างนิติบุคคลเกินความจำเป็นเมื่อเทียบกับขอบเขตทางภูมิศาสตร์ของธุรกิจ รวมถึงมีซัพพลายเออร์จำนวนมากที่ทำให้การจัดการยุ่งยากโดยไม่จำเป็น
Mark Weil ประธานกรรมการบริหารของ TMF Group กล่าวว่า
“ความท้าทายที่แท้จริงของธุรกิจในปัจจุบันไม่ใช่ความซับซ้อน แต่คือความไม่แน่นอนต่างหาก ด้วยความตึงเครียดทางการค้า ภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลง และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจต่าง ๆ จึงต้องตัดสินใจภายใต้สภาพแวดล้อมที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามคืน มาตรการเก็บภาษีถือเป็นสัญญาณล่าสุดที่สะท้อนความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของห่วงโซ่อุปทาน การกระจายความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งจำเป็นในบริบทนี้ แม้จะแลกมาด้วยต้นทุนบางประการ แต่ข่าวดีก็คือ ธุรกิจสามารถลดความยุ่งยากบางส่วนจากการกระจายความเสี่ยงนั้นได้ โดยปรับลดความซับซ้อนภายในของตนเอง จากการวิเคราะห์เปรียบเทียบของเรา พบว่าบริษัทที่มีลักษณะคล้ายกันกลับมีความซับซ้อนเชิงโครงสร้างแตกต่างกันอย่างชัดเจน เรามองเห็นโอกาสในจุดนี้: หากธุรกิจสามารถปรับโครงสร้างและรูปแบบการสนับสนุนให้เรียบง่ายลง เช่น ลดจำนวนนิติบุคคล และเลือกใช้พันธมิตรระดับโลกที่เชื่อถือได้เพียงไม่กี่ราย ก็จะช่วยให้ธุรกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น หากดำเนินการได้อย่างเหมาะสม วิธีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการปรับตัวขององค์กร ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน”
ติดต่อด้านสื่อ
Marina Llibre Martin ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลก
marina.llibremartin@tmf-group.com

Legal Disclaimer:
EIN Presswire provides this news content "as is" without warranty of any kind. We do not accept any responsibility or liability for the accuracy, content, images, videos, licenses, completeness, legality, or reliability of the information contained in this article. If you have any complaints or copyright issues related to this article, kindly contact the author above.
